Friday, March 9, 2007

ลักหลับทอม


วันนี้ ของเมื่อ 5 ปีที่แล้วผมพึ่งจะได้มีโอกาสเดินทางเข้ามาในกรุงเทพครั้งแรก เพื่อเสี่ยงดวง แสวงโชค ตามคำเชื้อเชิญของบรรดาเพื่อนฝูง ที่มันเข้ามาเรียนต่อ หรือไม่ก็หางานทำ อยู่ก่อนแล้ว หลังเรียนจบมัธยม ต่างจังหวัด ..คนที่ผมติดต่อ ด้วยเป็นประจำก็จะมี ไอ้ขอด มันเข้ามาทำงานเป็นลูกจ้าง ร้านขาย อะหลั่ยรถแถวๆ พญาไท แล้วก็ลงเรียน ที่มสธ.ไปด้วย ผมโทรนัดติดต่อกับมันอยู่หลายครั้งเพื่อ ดำรง การติดต่อไว้ เผื่อผม เข้ามาในกรุงเทพเมื่อไหร่ จะได้มาอาศัยนอนด้วย ในระหว่างที่กำลังหาที่เรียน หรือไม่ก็หางานทำ ......... ผมสองจิตสองใจ ระหว่างเรียน กับ งาน เพราะลำพัง ฐานะ ทางบ้าน ถ้าไม่มีรายได้เสริม คงไม่มีปัญญาพอที่จะส่งเสียให้เรียนได้ดังใจแน่ ผม เลยตัดสินใจ ที่จะหางานทำให้ได้ก่อน งานอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยงแล้วหล่ะ ขอให้มี ราย ได้ พอตั้งตัวได้ แล้วค่อยหาที่เรียนต่อ หรือไม่ก็เรียนไอ้ที่ไม่แพงมาก และก็ สามารถ เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยก็ได้ .....อย่าง ที่ มสธ. อย่างกับไอ้ขอดมัน แห ล่ะ ...............9 ม.ค. ช่วงเย็นๆ ก่อนขึ้นรถ ผมโทร นัดกับไอ้ขอดไว้ ว่าจะถึง กรุงเทพประมาณ ตีห้าของวันที่ 10 ม.ค. และก็วานมัน มา รับ ที่หมอชิด.....เพราะผมไม่รู้ที่ทางที่จะไปหอพักของมัน.......มันรับ ปาก......ผมจึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง เอาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ กะว่าพอได้ที่อยู่แน่นอนเป็นหลักแหล่งแล้ว ค่อยกับ ต่างจังหวัดไปเอามา เพิ่ม.... จะได้ไม่พะรุงพะรัง ....... และแล้ว เช้ามืดของ วันที่ 10 ม.ค.ผมก็เดินทางสู่เมืองศิวิไลซ์ กรุงเทพมหานคร จน ได้ ... เมื่อรถถึงหมอชิด ผมเดินเล่นแถวๆ ท่ารถเมล์ ขสมก. อยู่พักนึง ก่ะว่า ให้ สว่างกว่านี้หน่อยค่อยโทรไปหาไอ้ขอดมัน เกรงใจมัน มันอาจจะยังไม่ตื่นก็ ได้......ผมเดินอยู่แถวนั้น หาอะไรกินนิดๆหน่อย จนถึง เจ็ดโมงกว่าๆ ผมตัดสินใจ โทรหาไอ้ขอด............ “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” เสียง ผู้หญิงใสๆ ตอบจาก โทรศัพท์ สามสี่ครั้งที่ผมโทรไป ......ผมรอเวลาอีกพัก ก่ะว่า มันคงยังไม่ตื่น เลยไม่ได้เปิดเครื่อง..... แปดโมงกว่าๆ ผมโทรอีก ก่ะว่าป่านนี้มันคงตื่นและ เข้า ไปทำงานที่ร้านแล้วหล่ะ.........เสียงสัญญาณดังขึ้น.....ผมดีใจ...ไม่ตกอับ แล้ว เรา.....มีเสียงผู้หญิงแก่ๆรับสาย บอกว่า “ลื้อจาโทหาคาย” ผมตอบ “ขอสายไอ้ขอด ครับ ผมเป็นเพื่อมันมาจากต่างจังหวัด” อาซิ้มแก่ ตอบกลับมาว่า “ อาขอดอีม่าย อยู่แล้ว....เมื่อคืน..ตังหรวด มาจับอีปาย บอกว่าอีอ่ะ ... เข้าไปขโมยของ ที่โรงแรมปฏิพัทธ์...มีคงจำหน้าอี ได้....ป่านี้ คงนอนหงายเก๋งอยู่ในห้องขังแล้วหล่ะ” ผมตกใจพลางถามต่อไปว่า “ แล้วไอ้ขอดมันถูกจับอยู่โรงพักไหนครับ” อาซิ้มตอบ “อั๊วม่ายแน่ใจ ลื้อลองไป ถาม ที่ สน.พญาไท หรือไม่ก็ประชาชื่นก้อร่ายแค่นี้น้าอั๊วจะจัดของ” ........... สิ้น สุดเสียงอาซิ้ม ผมสับสนมากจะทำไงดี ใจหนึ่งก็เป็นห่วงไอ้ขอดมัน....อีกใจก็ เป็น ห่วงตัวเองว่า จะทำไงดี คนที่รู้จักที่ อยู่แถวๆ กรุงเทพ ก็ไม่ได้เตรียมที่ติดต่อสำรองไว้.....โอ้ยซวยจริงกู ผมเดินไป เดินมาอยู่แถวๆหมอชิด จนใกล้เที่ยง ....ไอ้การที่จะนั่งรถกลับบ้านก็ กระไร....ผมตัดสินใจ นั่งรอที่ช่องทางจอดรถโดยสารขาเข้า จากจังหวัดของบ้านตัว เอง....เผื่อจะมีคนรู้จัก...เดินทางเข้ามากรุงเทพบ้าง.....คันแล้วคัน เล่า..... ไม่มีใครที่ผมรู้จักโผล่หน้ามาให้เห็นเลย.......ผมดูตังค์ในกระเป๋าซึ่งเหลือ อยู่ไม่ ถึงสามร้อยบาท.....คิดกลับไปกลับมา ว่าถ้าอยู่ต่อ จนตังค์หมดจะทำไงนี่....ผม ตัดสินใจ...กลับดีกว่า ค่อยมาใหม่แล้วกัน...คราวหน้าเอาตังค์มาเยอะๆ เผื่อเจอ ปัญหาแบบนี้ ...ดีเสียอีกจะได้เอาข่าวไอ้ขอดติดคุกไปบอกญาติๆมันที่บ้าน ด้วย.......ผมเดินข้ามฟากจากโซนขาเข้ามายังโซนขาออก..แล้วเดินตรงดิ่ง มาที่ ช่อง จำหน่ายตั๋ว....ซึ่งมีคนเข้าแถวคอยซื้อตั๋วอยู่สาม-สี่ คน....ผมยืนรอแถวขยับ อยู่พักนึง ก็มีคนมาต่อแถว ต่อจากผม ผมไม่ได้หันไปมองแต่ได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์ เป็นเสียงผู้หญิงห้าวๆ ห้วนๆ สำเนียงคุ้นๆ...... ผมหันไปมอง....ผมต้องตกใจปนดีใจ...เพราะไอ้เจ้าของเสียง นั้น คือ อีอ้อม สาวทอม บ้านเดียวกันกับผม ผมเพ่งดูเธออยู่นาน เห็นเธอเปลี่ยนไป เยอะ มาก ดูแต่งตัวดีขึ้น ขาวสะอาดขึ้น ไว้ผมทรงบ๊อบ สั้น แล้วรวบปลายผมทั้งสอง ข้าง ไว้ด้านหลัง จนเห็นใบหูขาวนวลได้อย่างชัดเจน ข้างๆตัวเธอผมเห็นน้อง นิด เด็ก สาว รุ่นน้องบ้าน เดียวกัน จริงๆแล้วเธอเป็นญาติห่างๆกับผมแหล่ะ ยืนจับมืออยู่กับอีอ้อมแน่น ผม จำ ไม่ผิดแน่ ........ ผมตัดสินใจรอให้อีอ้อมวางหูโทรศัพท์แล้วหันกลับไปทักทั้ง สอง ว่า ..... “นี่อ้อม รึเปล่า ....เรา มด น่ะ จำได้ป่ะ ...” อีอ้อม พยักหน้า ขึ้น ลงสองสามครั้ง แล้วถามว่า “มึงไปไหนมาเหรอ ไม่รู้น่ะว่ามึงอยู่กรุงเทพ” เรา ทั้ง สามพากันออกมาจากแถว แล้วสนทนากันอยู่พักนึง จนรู้ว่า อีอ้อมมันมาส่งน้อง นิดกลับบ้านเพราะต้องกลับไปดูแลพ่อที่ป่วยหนัก ส่วนตัวผมก็เล่าเรื่องราวให้อี อ้อมฟัง และ ก็ขอไปอาศัย หอของมันนอน สักคืนสอง คืน ในระหว่างหางานทำ .....มันก็โอเค..... มันบอกว่า อยู่ได้ เพราะช่วงนี้ น้อง นิดของมันไม่อยู่ และก็คงอีกหลายวันกว่าจะกลับ ผมดีใจสุดชีวิต เหมือนฟ้าประทาน ที่พึ่งยามยาก มาให้พบ ผมนั่งแทกซี่กลับพร้อมอี อ้อม ในระหว่างนั่งรถกลับ ผมว่าอีนี่เป็นเอามาก ประมาณว่า ตัวมันเป็นหญิง... แต่ ใจ และนิสัย มันยิ่งกว่าชายเสียอีก มันเล่าให้ฟังว่า มัน ทำงานเป็นการด (คง ประมาณ รปภ.) อยู่ผับแถว ๆ รัชดา คอยเก็บแขกผู้หญิง ที่ทำท่าจะมีปัญหา ไม่ยอม จ่าย เมาเพี้ยน หรือตบตีกัน ...... รายได้ก็นิดๆหน่อยๆ ไม่มาก แต่ที่ได้มากก็ ทิปพิเศษ จากแขก ประจำ...ที่วันๆหนึ่งได้ไม่ต่ำกว่า เจ็ด แปด ร้อยบาท ....... ผมสนใจงานที่มัน ทำ อยู่มาก ....และมันก็รับปากว่าจะลองถามๆ ดูให้ ว่าเค๊าต้องการบ๋อย หรือ คนโบก รถ แขก รึเปล่า งานแบบนี้ มันต้องค่อยๆไต่เต้าไป ขอให้ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ เอาใจ แขกเก่งๆ เดี๋ยวก็ดีเอง ...........ผมยิ้มอยู่ในใจ........แล้วก็ฝันหวานถึง ราย ได้งามๆ วันละ ซัก ห้า- หกร้อย แค่นี้ก็สุดยอดของผมแล้ว แทกซี่วิ่ง มาได้เกือบๆชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงที่พัก ...... มันเป็นคอนโด สูง ประมาณ 5 ชั้นได้ อยู่ย่านรัชดานั่นแหล่ะ......ขณะ ที่เดินขึ้นบันไดเพื่อ จะ ไปยังห้องพัก ซึ่งอยู่ชั้น สาม อีอ้อมก็ชี้ให้ผมดูผับ...ที่ทำงานของมัน...มัน อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก.............แล้วก็คอนโดนี้ คนที่พักที่นี่ ส่วน ใหญ่ ก็จะทำงานที่ผับนั่น...มีทั้งการด บ๋อย เด็กเสริฟ สาวออฟ คนเชียร์แขก นักดนตรี นักร้อง พ่อครัว แม่ครัว ภารโรง ยันถึงเจ้าของเลยหล่ะ ที่เค๊าอาศัยกันอยู่บนนี้ ......... เราทั้งคู่เดินขึ้น บันไดมา และ ผ่านมาตามทางเดิน แต่ละห้องที่เดินผ่านดูเงียบยังก่ะไม่มีคน อยู่ .. อีอ้อมหันมาบอก “ยังงี้แหล่ะ ที่นี่อ่ะ มันก็แค่ที่ซุกหัวนอน ............. กลาง คืนทำงาน กว่าจะเลิกก็ตีสาม ตีสี่ กลางวันก็นอนกัน....จะตื่นกันอีกทีก็ ห้า โมง เย็นกว่าๆ เตรียมเข้างานประมาณทุ่ม .....กลางวันยังงี้เลยดูเงียบๆ.....นี่ถึง ห้องแล้ว...” อีอ้อมพาผมเข้าห้อง อย่างไม่เคอะเขิน สภาพห้องดูเป็นระเบียบ เรียบ ร้อยดี “ นี่ยายนิดไม่อยู่หลายวัน ไม่รู้..กว่ามันจะกลับมา สภาพห้องจะสะอาดเรียบร้อยแบบนี้หรือเปล่า ก็ไม่รู้ ยังไงก็ช่วยๆกันรักษาความ สะอาดแล้วกัน กูขี้กียจ ให้เมียกลับมาด่า” อีอ้อมมันบ่นให้ฟัง แล้วชี้ไปที่ มุม โซฟา แล้วบอกว่า “มึงนอนตรงนั้นแล้วกัน นอนพักก่อน ตามสบายน่ะ ห้องน้ำอยู่ตรง โน้น ที่ม่านกั้นน่ะที่นอนกูกับเมีย ตอนนี้กูขอนอนพักก่อน มีเวลาอีกสองสาม ชั่วโมง ก่อนเข้างาน อยากกินอะไรก็ ในตู้เย็นมี หรือถ้ามึงอยากกินข้าวก็ลงไป ใต้ คอนโด เค๊ามีขาย กุญแจห้องแขวนอยู่ที่ประตู ถ้าออก ไปก็ล๊อคกุญแจให้กูด้วย เดี๋ยวของหาย กูไปนอนหล่ะ” .......... พูดเสร็จอี อ้อมก็ มุดตัวเข้าไปในม่าน ซึ่งมีเตียงนุ่มๆ อยู่ด้านใน ไม่เกินห้านาที ผมก็ ได้ ยินเสียงมันกรน ดัง คร๊อก...ฟี๊....เฮ้อ หลับง่ายจังอี่นี่ ....ส่วนผม เดิน ทาง มา วุ่นๆ ทั้งคืน รู้สึกง่วงเหมือนกัน เลยล้มตัวนอน ตรงโซฟา แล้วเปิดทีวีดู รายการข่าวได้พักนึงก็เผลอหลับไป......................... ผมมารู้สึกตัวตื่นอีกที...ก็อีตอนที่อีอ้อม มันเอาเท้า มาเขี่ย แถวขา ผม ...... ประมาณว่าจะสะกิดให้ผมตื่น ...ผมลืมตาขึ้นและผลักตัวเองลุกขึ้นนั่ง เห็นอีอ้อม กำลัง ก้มๆเงยๆอยู่เก้าอี้ข้างโซฟาที่ผมนอน มันกำลังผูก เชือกรองเท้า แล้วก็บ่นว่า “กูสายแล้วเนี่ยะ.....ยังไงมึงหาอะไรกินก่อนน่ะ ข้าง ล่างมีขาย....ไม่ได้ดูแลเลยหว่ะ....ฝากห้องด้วยน่ะ.....” พูดเสร็จอีอ้อม ก็ พรวดออกห้องไป ผมหันไปมองที่นาฬิกา เห็นว่ามันคงสายของมันจริงอ่ะ เพราะนี่มัน จะสองทุ่มแล้วหล่ะ........ ผมใช้ชีวิตคืนแรกในกรุงเทพแบบคนเดียวเปล่าเปลี่ยว ใจ ภายในห้องพักของ อีทอม คน บ้านเดียวกัน หลัง จากที่ลงไปหาอะไรกิน เป็นมื้อค่ำ ด้านล่างคอนโด ผมกลับขึ้นมานอนเล่นต่อ บนห้อง ดูทีวี ไป นอนเล่นไป ...... แล้วก็เผลอหลับไป....อีก ......มาตื่นอีกทีก็ตอน ที่ อีอ้อมมันเลิกงานแล้ว.......มันกลับมาพร้อมกับคำบ่นตามประสามันตามเคย “ไอ้ห่า เตี้ยเอ้ย....ชอบทำลายบรรยากาศ คนกำลังมีความสุข คนเค๊าจะหากิน อย่างบริสุทธิ์ .... มัน จะมาตรวจอะไรนักหนาว่ะ...แย่ ...ๆ....ๆ ตรวจอย่างงี้ แขกหนีหมด” ผมตกใจตื่นขึ้น หันไปถามมันว่า “อะไรของมึงว่ะ” มันตอบ “ก็พ่อมึงสิ มาตรวจฉี่ ตรวจบัตรอีกแล้ว อาทิตย์นี้ มันมาสามหนแล้วน่ะว้อย ยังงี้ ต่อไปแขกไม่มาแน่” พูดเสร็จมันก็มา จับ ผมลุกขึ้น แล้วบอก “ ป่ะ ป่ะ แต่งตัว ไปกินเหล้ากันข้างล่าง ที่ห้องกัปตัน จะ ได้แนะนำให้รู้จัก จะฝากงานให้” ผมดีใจเมื่อได้ยินเรื่องฝากงาน รีบเปลี่ยนจาก กางเกงขาสั้นเป็นกางเกงยีนส์ ขายาวสีดำตัวโปรด ............. อีอ้อมแนะนำผมให้เพื่อนๆที่ทำงานได้รู้จัก มีทั้งที่เป็น บ๋อย นักดนตรี สาวออฟ รปภ. และก็ที่สำคัญคือกัปตัน ....ซึ่งแกคุยกับผมดีมาก...แนะนำทุกเรื่องประมาณ ว่าจะรับผมเข้าลองงานประมาณนั้น ...ซึ่งผมก็เชื่อตามที่แกแนะนำทุกอย่าง ..... เรานั่งกินกันตั้งแต่ ตีหนึ่งเศษๆ ไม่มีทีท่าว่าจะเมาเลย คุยสนุกสนานเฮฮา แซว กันไป แซวกันมา จนผมเริ่มเห็นถึงทางสว่าง ในการเข้าทำงานที่นี่ เพราะผมเข้า กับ พี่ๆ ได้ทุกคน นี่ต้องขอ ขอบคุณ อีอ้อม คนดีของผม ที่ตอนนี้ดูมันจะดื่มมากกว่าเพื่อน คงจะถือโอกาสปลด ปล่อย เพราะเห็นพี่ๆ เค๊าแซวกันว่า ช่วงที่ยายนิดอยู่อ่ะน่ะ ไม่เคยไปสังสรร กับ เพื่อนๆเลย นอนกกเมียอยู่แต่ในห้อง ซึ่งถ้าจะจริงของพี่ๆเค๊าหล่ะ ........ งาน เลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ...หลังจากที่หลายๆคน ขอตัวแยกย้ายกลับห้องไปนอน ..... เหลือเพียงผมกับพี่กัปตันนั่งดริ้งกันต่ออย่างอืดๆ ช้าๆ ( เพราะเมากันมากแล้ว ทั้งคู่ ) โดยมีอีอ้อม เมาฟุ๊บ อยู่ข้างๆวง ...ผมจึงถือโอกาสลาพี่กัปตัน บอกว่า เผื่อพี่จะพัก ผ่อน .....แล้วพยุงอีอ้อมลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลพอควร ........ เมื่อถึง ห้อง.......ผมประครองอีอ้อมซึ่งตอนนี้เมาไม่ได้สติ เข้าไปวางบนเตียงของ มัน ... ตัวมันหนักพอดูเลย ก็คิดดู คนสูงเกือบๆ 165 ซม.อวบนิดๆ แล้วก็ไม่มี สติ ออกอย่างงี้ .... กว่าจะวางตัวมันบนเตียงได้ อย่างไม่ล้มทั้งคู่ ผมคิดอยู่ตั้งนาน ว่าจะวางมันท่าไหนดี สุดท้ายก็มาจบเอาอี ท่า หงายหลังนี่หล่ะ ผมเลือกวางหลังมันลงไปตรงๆ บนขอบเตียง ซึ่งท่านี้เองที่ มัน เป็นเหตุ ให้ไอ้เด็กบ้านนอกอารมณ์เปลี่ยวอย่างผมเกิดอารมณ์ หงี่ขึ้นมา .... คุณ คิดดูว่า การที่ผู้หญิง ทำท่าแอ่นเหมือนๆ กับท่าสะพานโค้งอ่ะ ไม่ว่าจะเป็นทอม หรือ ดี้ หรือ สาวสดแบบไหน มันแน่นอนว่า ส่วนโค้งส่วนเว้า ต่างๆมันย่อม นำเสนอตัว มัน เองโดยธรรมชาติ ผมเพ่งดูอยู่พักนึง โดยเฉพาะตรงจิ๋มของมัน มันอูมมาก ประมาณ ฝ่า มือผมได้ .... ใจผมเต้นเหลือเกิน.......ผมหันไปที่ประตูซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ ปิด......แล้ววางอีอ้อมไว้บนเตียง โดยให้นอนตั้งฉากกับแนวยาวของเตียง แล้ว ปล่อย ขาห้อยลง ..... ผมเดินไปปิดล๊อคประตู..........แล้วเดินกลับมาที่เตียง...... ผม ตั้งสติ เขย่าตัวอีอ้อม.....แล้วเรียก.....เพื่อทดสอบว่ามันเมาหลับสนิทแคไหน.....มัน ไม่ ตื่น ไม่ตอบสนอง.......ผมจัดแจงถอดเสื่อผ้าตัวเองออก.....ท่อนเนื้อของผมเริ่ม สู้....เมื่อมองเห็นเนินเนื้อตรงส่วนจิ๋มของอีอ้อม แม้มันจะถูกห่อหุ้มด้วย กางเกงผ้ายืดสีดำ แต่ด้วยท่านอน แบบนั้น มันทั้งรั้ง ทั้งรัด ให้เห็น รอยแยก ของ เนินจิ๋มได้อย่างชัดเจน.......ผมไม่รอช้า.......มือขวาของผม เอื้อมมาจับสาว ท่อนเนื้อของตัวเอง อย่างอัตโนมัติ ราวกับ เป็นการปลอบประโลมให้รู้ว่า อีกไม่นาน เจ้าจะได้ลิ้มลอง อาหารโปรดที่ เจ้าชื่นชอบ.....ส่วนมือซ้าย...ผมเอื้อมไปปลดตะขอที่กางเกงผ้ายืดของอี อ้อม.... แล้วรูดซิบลงอย่างช้าๆ...จนสุด...หลังจากนั้นผมล่ะมือขวาจากท่อนเนื้อ มายัง ขอบ กางเกงผ้าของอีอ้อม แล้วบรรจงถอดมันออกเบาๆ มันหลุดออกมาไม่ยากมากนัก แล้วหัน เหวี่ยงมันไปที่โซฟา.....แล้วใจผมก็ต้องเต้นระทึกอีกครั้งเมื่อ สังเกตเห็น เนิน เนื้ออูม ภาย ใต้กางเกงในลายดอกไม้สีขาว ภายหลังจากถอดพันธนาการชั้นนอกออกแล้ว มันช่างสวย งาม เหลือเกิน ความอูมใหญ่ ที่ถูกบดบังด้วยกางเกงผ้า และ จริตอย่างผู้ชายของอีอ้อม มันเผยโฉมที่แท้จริงของมันออกมาแล้ว ผมก้มลง เอาปลายจมูกสัมผัส ตรงล่องเนิน เนื้อสวรรค์ เบาๆ เพื่อสัมผัสกลิ่นไอ ที่แท้จริงของมัน มันช่างหอมหวนเย้ายวน ให้ ลิ้มลองเหลือเกิน ถึงตอนนี้ผมไม่สนใจ เต้าเนื้อด้านบนของอีอ้อมเลย เพราะ มันดูแบนราบ และคงจะถูบบีบรัดด้วยยางยืด อยู่ทุกวันจนไม่มีสิทธิ์โผล่ ชู ชัน ให้โลกได้เห็น .......ผมสารวนอยู่กับการสูดดมอยู่ตรงเป้ากางเกงในของอี อ้อมอยู่ พักใหญ่ ..... แล้วตัดสินใจถอดมันออก.....เพื่อให้ประตูสวรรค์ ได้คลายตัว และ แง้มเปิด...รอรับ การแทรกตัวเข้าไปของท่อนเนื้อของผม.....ผมพยายาม ใช้ลิ้น กระตุ้นเขี่ย กลีบเนื้อที่ปกคุมไปด้วยไร ขนสีน้ำตาล ดำ ทั้งสองข้าง และ ควานหาเม็ดสวรรค์ ... ผมเจอมันแล้ว ... ผมใช้ปลายลิ้นทักทายกับเม็ดนั้น เบา .... อีอ้อมกระตุกตัวเองนิดนึงจังหวะนี้.....ตัวมันแอ่นขึ้นทุกครั้งที่ปลายลิ้นของ ผม สัมผัสโดนเม็ดของมัน........ผมเล่นลิ้นอยู่กับเม็ดของอีอ้อมนานพอควร.......จน รู้สึกได้ว่า น้ำเมือกใสๆ ของอ้อม มันเจิ่งนอง เต็มปลายคางของผม ซึ่งนั่นเป็น สัญญาณว่า เราสองคนพร้อม แล้ว สำหรับการ ปฏิสนธิ ...ท่อนเนื้อของผม ซึ่งตอนนี้ ถูกสาวขึ้นลง ขึ้นลง จน หัวบานได้ที่ ........ผมไม่รอช้า.....มือทั้งสองข้างของผม จับขาของอีอ้อม แบะ ออก ให้กว้างมากขึ้น แล้วปล่อยมันห้อยลงที่พื้น ผมขยับตัวเองเข้าใกล้เป้า หมาย....แล้ววางทาบท่อนเนื้อของตัวเอง ตรงร่องแฉะๆ ของอีอ้อม ใช้หัวแม่มือขวา กดหัวท่อนเนื้อลงไปในร่อง แล้วโยก เอวช่วย มันช่างรู้สึกได้ถึงไออุ่น ของกลีบ เนื้อ ที่บีบรัดหัวท่อนเนื้อของ ผม...อย่างที่จะหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ......อีอ้อมมันคราง.....แล้วยกสะโพก ลอยขึ้นจากเตียงเล็กน้อย....มันเป็นปฏิกิริยา ตอบสนอง ทางสรีระ ของกลีบเนื้อ ที่ส่งไปยังประสาท แล้วสั่งการมาที่สะโพก ให้สนองตอบความต้องการ ความลึก ที่ มากกว่า ผมไม่รอช้า ช่วยสนองตอบเธอทันที ผมชักเข้า ดึงออก ชักเข้า ดึงออก ยาว ขึ้นๆ อีอ้อมยังคงคราง คราง แม้มันจะเป็นเสียง ที่เกิดขึ้นภายในลำคอ ที่ดู เหมือนความ เจ็บปวด แต่ผมเข้าใจดี ว่า นี่มันบ่งบอกถึงความสุข ผมก้มหน้าก้มตาทำ ต่อ....... จนท่อนเนื้อของผม ได้ฝังมิดไปในกลีบเนื้อของอีอ้อม จนหัวเหน่าของผม บี้อยู่กับ กลีบทั้งสองของอีอ้อม แทบจะเป็นเนื้อแผ่นเดียวกันแล้ว....ผมเอื้อมมือทั้งสอง สอดเข้าไปตรงแผ่นหลังของอีอ้อม ออกแรงรวบ ยกตัวมันขึ้นมา แล้ว พลิก ตัวเอง นั่ง บนขอบเตียง โดยมีอีอ้อม นั่งอยู่บนตัก มันช่าง ทะลวงเข้าไปลึกเหลือเกิน ผม สังเกตอาการเก็งที่ เกิดขึ้นจากความลึก ของอีอ้อมได้ เนินก้น ที่แอ่นงอนขึ้นทันทีที่ผม กระดก ดัน ท่อนเนื้อขึ้น มันช่างบ่งบอกได้ถึงความลึกที่แสนวิเศษจริงๆ .....ผมโยกอยู่ท่า นั้นนานพอควร...สลับกับการกระซิบเบาๆ ถามอ้อม......อ้..อ..มจ๋า...อ้..อ..ม... จ๋า.....เธอไม่ตอบ แต่หลับตาปี๋.... หน้าตาบิดเบี้ยว....เลียริมฝีปากเป็น ระยะ..ๆ .......ผมขยับตัวเองเข้ามากลางเตียง แล้วค่อยๆ หมุนอ้อม ให้หันหน้าไป ทางเดียวกับผม พร้อมๆ กับ ...พยายามประครอง ให้ท่อนเนื้อ ฝังอยู่ในกลีบเนื้อของอ้อม ....ด้วยการชัก เข้า ชักออก อย่างช้าๆ ระหว่างการหมุนอย่างต่อเนื่อง .....แล้วผม ค่อยๆประ ครอง เธอให้นอนคว่ำ ตั้งเข่าขึ้นทั้งสองข้าง เพื่อให้ใกล้เคียงกับท่าคลานมากที่สุด ทันใดนั้นเองมือทั้งสองข้างของเธอ ก็เอื้อมไปดันพื้นไว้ ผมรู้ได้ทันทีแล้วว่า เธอรู้ตัวแล้วหล่ะตอนนี้.....ผมไม่สนใจอะไรแล้ว มัน เลยเถิด เข้าไปป่านนี้แล้ว จะกลัวอะไรหล่ะ ......เมื่อได้ ท่าที่ต้องการแล้ว ผมเอนตัวนอนทาบทับเบาๆ ไปกับแผ่นหลังของเธอทันที ลิ้นผม เริ่ม ทำงานอีกครั้ง ที่ซอกคอ รูหู เธอไม่พูด แต่ ครางในลำคอเบาๆ....ท่อนเนื้อยังคง ทำ งานไม่หยุดหย่อน....ความแฉะ ของกลีบเนื้อของเธอ ยังคงมีอยู่ไม่จืดจาง ... จาก ท่านั้นผมตั้ง ตัวขึ้น ใช้มือขวา เลื่อนไปขยับ ขาท่อนบนทั้งสองข้างของอ้อม ให้ แบะกว้างขึ้น เพื่อให้ เหมาะสมกับ ตำแหน่งของท่อนเนื้อของผม กับร่องกลีบของ อ้อม เธอยอมทำตามโดยไม่มีการขืนเกรง แต่ประการใด ....หลังจากได้ตำแหน่งที่ เหมาะ สม ผมใช้มือทั้งสองข้าง รวบจับ บริเวณเอว ของเธอ เพื่อ โยก เข้า ออก ตามจังหวะการกระแทกท่อนเนื้อของ ผม ...... ก้นเธองอนรับได้ สวยงามมาก ทุกครั้งที่ผมกระแทก ผมจะได้ยินเสียงซีดส์ ของเธอ ดัง ออกมาเป็นจังหวะๆ.....และในจังหวะสุดท้าย ของทุกๆการโยกกระแทก ผมอัดท่อนเนื้อ เต็มแรง เข้าไปในร่องกลีบ แล้ว คามันไว้ จน...จน...ก้นเธองอน ...กล้ามเนื้อ ท้อง เธอเกรง.....เสียงครางดังขึ้น... ยาวขึ้น...... จนผมชักกลับ .....เธอจึง ถอนหายใจ ดัง ........ยัง..ยัง...ยังเราสองคนยังคงเล่นลีลาสวาทกันต่อ ไม่มีเบื่อ ผมไม่ อยากให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปเลย ..............ก่อนเปลี่ยนท่าใหม่ ผมเอื้อมมือไป รวบจับมือของอีอ้อม ทั้งสองข้าง แล้วดึงมันเข้ามาหาตัว อย่างแรง พร้อมๆกับการ ออกแรงกด ท่อนเนื้อให้เข้าไปในกลีบของอีอ้อมให้ลึกสุดสุด......จนผมว่า อีอ้อม มันเสร็จ ก็อีท่านี้แหล่ะ เพราะผมรู้สึกได้ถึงการบีบ ตอด เป็นจังหวะถี่ๆ ตุ๊ บ...ตุ๊บ...ตุ๊บ.. ของกล้ามเนื้อ ภายในกลีบ ประกอบกับเสียงร้องออกมา นอกลำคอ “อ๊อย........ ซีดส์..........” และ อาการเก็งค้าง หน้าหงายขึ้นด้านบน รวมถึงนิ้วมือทั้งสองข้าง ที่จิก เกาะ แขนผม เสียะแน่ะ แทบจะแกะไม่ออก.....................................ผมค้างอยู่ท่า นั้นไว้พักหนึ่ง เพื่อให้อีอ้อมมันได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อตัว เอง......................................................แล้วโยกท่อนเนื้อ ต่อ .....ผมพึ่งสังเกตเห็นว่า ตรงโคน ท่อนเนื้อของผม ตอนนี้มันเจิ่งนองไปด้วยเมือกขาวๆ ของอีอ้อมเต็มไปหมด ...... ผม โยกต่อ โดยไม่สนใจ ความแฉะ ที่มันเกิดขึ้นจากความ เงี่ยน กำหนัดของอี อ้อม ............. ผมค่อยๆหย่อนตัวเองลงบนพื้นเตียง โดยรั้งอีอ้อม เข้ามาด้วย ไม่ให้ ท่อนเนื้อหลุดออกจากกลีบ ....... อีอ้อมก็เอนตามมา ราวกับ ยังตราตรึง อยู่กับรสสวาทที่พึ่งผ่านไปเมื่อสักครู่ และไม่ต้องการให้เวลาแห่งความสุข ผ่าน ไปอย่างงั้นแหล่ะ ผมโยกต่ออีก สองสามครั้ง เพราะผมรู้ว่ามันเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้ร่องกลีบ กับ ท่อน เนื้อ ไม่พรากออกจากกัน ....ผมสะกิดให้อีอ้อมพลิกหมุน แล้วหันหน้าเข้ามาหาผม เธอทำตามด้วยแรง และสติของเธอเอง ผมสังเกตได้ .....ตอนนี้....ตาเธอยังคงหลับ หน้าเธอนิ่งเฉย จมูกเธอ บานเปิดขึ้นเพราะความเหนื่อย อาการหายใจหอบ ยังคงมี อยู่ ไม่จางหาย.....ผมบรรจงประกบริมฝีปาก แล้วใช้ลิ้นชอนไชเข้าไปในปากเธอ เธอ หายใจถี่ ขึ้น ....ด้านล่างผมยังทำงานไม่มีหยุด.....ผมพลิกเธอนอนหงาย...แล้วขึ้นคร่อม ประกบ ทั้งบนและล่าง...เธอคราง ในลำคอ....ผมถลกเสื้อเธอขึ้น ตอนนี้ ผมอยากทำ อะไรก็ทำได้หมดทุกอย่างแล้ว ... เธอ อีอ้อม เป็นเมียของผม....แล้วผมว่าเธอก็ ยอม รับในข้อนี้แล้ว ..........ผมสอดมือไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอ ของยางรัดหน้าอก และ ตะขอยกทรง ที่เธอรัดปิดบังมันไว้.......ท่อนเนื้อยังโยกต่ออย่างเมามัน ขา ทั้งสองข้าง ของเธอตอนนี้ ช่วยรั้งเอวผมไว้ไม่ให้มันหลุดไปจากตัวเธอ.......เธอติดใจแล้ว หล่ะ.............ผมใช้ลิ้นต่อ จากปาก สู่รูหู จากหูสู่ซอกคอ แล้วลงมาที่เต้า เล็กๆทั้งสองข้าง ผมเม้มดูดนมเธออย่างเมามัน เธอครางไม่เป็นศัพท์อีก แล้ว.........ผมล่ะจากทุกอย่าง และตั้งใจ จะให้เสร็จคราวนี้แล้ว โดยดันตัวเอง ขึ้น แล้วจัดท่าทาง ให้เหมาะสมที่สุด ด้วยการใช้มือทั้งสองข้างแบะขาของอีอ้อม ให้กว้างที่สุด แล้วค้ำขาท่อนบนของอี อ้อมไว้ ผมขยับตัวเข้าใกล้อีก สะโพกผมเริ่มทำงาน เต็มที่ ตอนนี้ท่อนเนื้อผม ซึ่ง อิ่มน้ำเต็มที่จนพร้อมสำหรับการปลดปล่อย ได้ เคลื่อนไหว เข้าออก เข้าออก เข้า ออก เป็นจังหวะอยู่ในรูร่องกลีบอุ่นๆ ของอีอ้อม ผมซอย ถี่ขึ้น ลึกขึ้น ถี่ขึ้น ลึกขึ้น ........แล้ว......ก็ปลดปล่อยน้ำรักออกมาสุดแรง ในรูร่องกลีบ ของอี อ้อม ที่ตอดรับอีกครั้ง แม้ จำนวนครั้งในการตอดครั้งนี้ จะดูน้อยกว่าครั้งแรกก็ ตาม......แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกได้ถึง ความสุข ที่ผมและอีอ้อม มีความสุข ที่ ยาก จะลืมได้....................................โอยส์ ซีดส์..........................ผมและอ้อมหมดแรง พร้อมๆกัน เราทั้งสองนอนทาบ ทับ กันอยู่อย่างงั้นจนฟ้า สาง.......................